ตำนานเล่าขานว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้วโดยมีหลักฐานการค้นพบฟอสซิล
ของกุหลาบเป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รัฐโคโลราโด และรัฐโอเรกอน
และยังพบเครื่องประดับที่ทำด้วยทองเป็นรูปดอกกุหลาบของชาวสุเมเรียน
โดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ (เซอร์เลนเนิร์ด วูลลีย์)
จากหลักฐานที่พบลักษณะเป็นกุหลาบป่าที่มีอายุถึง 40 ล้านปี
ปัจจุบันกุหลาบป่าได้เปลี่ยนลักษณะไปจากเก่า
เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูก และผสมพันธ์ ขยายพันธุ์เป็ฯพันธุ์ต่างๆ
มากมาย ตามประวัติประเทศต่างๆ เล่ากันมาว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์จีน
ในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นประมาณเมื่อ 5000 ปีมาแล้ว
ประเทศอียิปต์ก็เช่นกันปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกประดับและส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน
เพราะชาวโรมันเชื่อว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นของขวัญ
และเป็นดอกไม้ที่ร้อยเป็นมาลัยต้อนรับแขกหรือไว้สำหรับพิธีเฉลิมฉลองต่างๆ
นอกจากนี้ยังทำเป็นน้ำมันหอมระเหยและส่วนประกอบในการทำขนม ทำไวน์ ฯลฯ
มาถึงยุคสมัยของพระนางโจเซฟิน (Josephine) ปี ค.ศ. 1804 ราชินีของกษัตริย์นโปเลียนที่ 1 แห่งราชวงศ์ฝรั่งเศส พระองค์ทรงคลั่งไคล้ในเสนห์ของกุหลาบเป็นอันมาก ทรงพยายามรวบรวมสายพันธุ์กุหลาบไว้หลากหลายชนิด และทุ่มเงินสร้างสวนกุหลาบที่มาเลซอง (Malmaison) มีสายพันธุ์กุหลาบกว่า 250 สายพันธุ์ นอกจากนี้พระองค์ยังให้จิตรกรวาดภาพกุหลาบในสวนของพระองค์เองเป็นภาพสีน้ำ โดยจิตรกรชื่อปีแยร์ โจเซฟ เรอดูเต (Pierre Joseph Redoute) เชื่อกันว่ากุหลาบในสวนของพระนางโจเซฟิน เป็นบรรพบุรุษของกุหลาบในยุคปัจจุบัน กุหลาบในสมัยนั้นมักจะออกดอกแค่ปีละครั้ง และถาพวาดจิตรกรรมเหล่านั้นได้ถูกนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือกุหลาบ (Les Roses) ซึ่งคำว่ากุหลาบมาจากคำว่า "คุล" ในภาษาเปอร์เซีย แปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" และเข้าใจว่าเปอร์เซียได้แพร่เข้าไปในอินเดีย เพราะในภาษาฮินดูมีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเาเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก
ตามความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าของกรีก เล่ากันว่าเมื่อครั้งที่ เทวีแห่งความรักนามว่า... " อโฟรไดท์ " (venus) ถือกำเนิดขึ้นจากท้องทะเล กุหลาบก็ได้ถือกำเนิดขึ้น จากฟองคลื่นขาวสะอาดที่สาดซัดมาต้อนรับ การเกิดของอโฟรไดท์ กุหลาบทุกดอกยังคงมีสีขาวบริสุทธิ์ เหมือนตอนที่ถือกำเนิดขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่ง อาโดนิสชู้รักคนหนึ่ง ของอโฟรไดท์ได้รับบาดเจ็บ จนถึงแก่ความตายในการล่าหมูป่า เลือดของชายหนุ่มที่หยดลงไปโดนกุหลาบที่อยู่ใกล้ ทำให้กุหลาบแดงเกิดขึ้นในโลก บ้างก็เล่าว่า ระหว่างที่อโฟรไดท์เร่งรีบจะไปช่วยชายคนรักเกิดโดนหนามกุหลาบ เกี่ยวและเลือดที่รินไหลทำให้กุหลาบกลายเป็นสีแดง และนั่นคือที่มาของกุหลาบแดงที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความรัก
มาถึงยุคสมัยของพระนางโจเซฟิน (Josephine) ปี ค.ศ. 1804 ราชินีของกษัตริย์นโปเลียนที่ 1 แห่งราชวงศ์ฝรั่งเศส พระองค์ทรงคลั่งไคล้ในเสนห์ของกุหลาบเป็นอันมาก ทรงพยายามรวบรวมสายพันธุ์กุหลาบไว้หลากหลายชนิด และทุ่มเงินสร้างสวนกุหลาบที่มาเลซอง (Malmaison) มีสายพันธุ์กุหลาบกว่า 250 สายพันธุ์ นอกจากนี้พระองค์ยังให้จิตรกรวาดภาพกุหลาบในสวนของพระองค์เองเป็นภาพสีน้ำ โดยจิตรกรชื่อปีแยร์ โจเซฟ เรอดูเต (Pierre Joseph Redoute) เชื่อกันว่ากุหลาบในสวนของพระนางโจเซฟิน เป็นบรรพบุรุษของกุหลาบในยุคปัจจุบัน กุหลาบในสมัยนั้นมักจะออกดอกแค่ปีละครั้ง และถาพวาดจิตรกรรมเหล่านั้นได้ถูกนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือกุหลาบ (Les Roses) ซึ่งคำว่ากุหลาบมาจากคำว่า "คุล" ในภาษาเปอร์เซีย แปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" และเข้าใจว่าเปอร์เซียได้แพร่เข้าไปในอินเดีย เพราะในภาษาฮินดูมีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเาเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก
ตามความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าของกรีก เล่ากันว่าเมื่อครั้งที่ เทวีแห่งความรักนามว่า... " อโฟรไดท์ " (venus) ถือกำเนิดขึ้นจากท้องทะเล กุหลาบก็ได้ถือกำเนิดขึ้น จากฟองคลื่นขาวสะอาดที่สาดซัดมาต้อนรับ การเกิดของอโฟรไดท์ กุหลาบทุกดอกยังคงมีสีขาวบริสุทธิ์ เหมือนตอนที่ถือกำเนิดขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่ง อาโดนิสชู้รักคนหนึ่ง ของอโฟรไดท์ได้รับบาดเจ็บ จนถึงแก่ความตายในการล่าหมูป่า เลือดของชายหนุ่มที่หยดลงไปโดนกุหลาบที่อยู่ใกล้ ทำให้กุหลาบแดงเกิดขึ้นในโลก บ้างก็เล่าว่า ระหว่างที่อโฟรไดท์เร่งรีบจะไปช่วยชายคนรักเกิดโดนหนามกุหลาบ เกี่ยวและเลือดที่รินไหลทำให้กุหลาบกลายเป็นสีแดง และนั่นคือที่มาของกุหลาบแดงที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความรัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น